อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 13
เมื่อพระราชกุมารตรัสถามนายสารถีว่า “ เธออยากรู้มั้ยว่าทำไมเราต้องแสร้งทำเป็นคนใบ้และคนพิการมายาวนานถึง 16 ปี
อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 12
หลังจากที่พระราชาได้ฟังคำกราบทูลของคณะพราหมณ์โหราจารย์แล้ว พระองค์ก็ทรงรู้สึกหวาดกลัวต่อภัยอันตรายที่กำลังจะมาถึง ด้วยเหตุนี้เองพระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำตัวพระราชกุมาร ไปฝังในป่าช้าผีดิบ
อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 11
ในเวลาต่อมาในขณะที่พระราชกุมาร ทรงตื่นขึ้นจากการบรรทมบนที่นอนอันอ่อนนุ่มภายใต้เศวตฉัตรสีขาวสวยงามก็ได้ทอดพระเนตรเห็นเศวตฉัตรอันยิ่งใหญ่ที่ประดับอยู่เหนือพระแท่นบรรทม
ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 5
วันหนึ่ง ในขณะที่พระราชกุมารทรงดื่มน้ำนมจากพระถันของมารดาอยู่นั้น ได้้กัดพระถันของพระนางเอาไว้ แล้วตรัสถามว่า “แม่จงบอกความจริงแก่ฉัน ใครเป็นพ่อของฉันกันแน่ ถ้าแม่ไม่บอก ฉันจะกัดถันของแม่ให้ขาดเดี๋ยวนี้”
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 18
สุนันทสารถีเมื่อได้ฟังเหตุผลอย่างชัดเจนก็เข้าใจ เกิดความเลื่อมใสว่า แม้พระราชกุมารผู้เป็นรัชทายาทยังมีพระประสงค์จะทรงผนวช แล้วตัวเราจะอยู่ครองเรือนไปทำไม จึงกราบทูลว่า
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 6
ต่อจากนี้ไป เราจะแสดงตนเป็นคนง่อยเปลี้ย เป็นคนหูหนวก และเป็นคนใบ้ จนกว่าความปรารถนาของเราจะสำเร็จ นับจากนั้นมา พระราชกุมารก็มิได้ตรัสอะไรอีก ไม่ทรงขยับพระหัตถ์และพระบาท แม้หิวก็ไม่ทรงร้องไห้ขอดื่มนม
ได้รับพยากรณ์ - พุทธประวัติ
พุทธประวัติ พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
ได้ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ - พุทธประวัติ
ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 6
คำของมารดานั้น มีความหนักแน่นประดุจขุนเขา ที่บุตรไม่ควรจะฟังเพียงผ่านๆ แต่ควรตระหนักไว้ในใจเสมอ เพราะมารดานั้นมีความรักและห่วงใยต่อบุตรเทียบด้วยชีวิตของตน จึงควรเคารพเชื่อฟังด้วยดี มีภาษิตที่สัตบุรุษทั้งหลายได้กล่าวไว้ ถึงความพิเศษของมารดาบิดาที่มีต่อบุตรถึง 4 ประการ คือ
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 22
จากนั้นก็ทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้เปิดท้องพระคลังทั้งหมด และให้จารึกแผ่นทองคำติดไว้ ณ เสาท้องพระโรงว่า “ผู้ใดต้องการทรัพย์สมบัติเงินทองของมีค่า ก็จงมาขนเอาไปจากท้องพระคลังหลวงนั้นเถิด”