ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 9
มโหสถบัณฑิตได้ฟังคำให้การของคนทั้งสองแล้ว ปรารถนาจะทำความจริงให้ประจักษ์ท่ามกลางมหาชน จึงให้คนใช้นำถาดพร้อมใบประยงค์มาด้วยกำหนึ่ง สั่งให้ตำในครกจนแหลก ขยำด้วยน้ำ แล้วกรอกน้ำนั้นใส่ปากโค
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 8
โจรสบโอกาสก็คว้าเชือกสนสะพายที่ผูกรั้งจมูกโคเอาไว้ นึกกระหยิ่มใจว่า “เจ้าหนุ่มนี่ขี้เซาจริง เขาลักโคของตนก็ยังไม่รู้ ช่างเป็นลาภของเราหนอ ที่ได้โคมาเปล่าๆ นี่ถ้าเอาไปขายต่อ ก็คงจะได้กำไรงาม” แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แล้วเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 18
กล่าวถึงพระเจ้าวิเทหราช ครั้นท้าวเธอได้ทรงสดับคำรายงานที่มหาอำมาตย์กราบบังคมทูลถวายผ่านทูตคนสนิท ก็ทรงอัศจรรย์ในพระหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยทรงเห็นว่าเรื่องทำนองนี้อยู่เหนือวิสัยที่มนุษย์ปกติธรรมดาจะทำให้ เกิดขึ้นได้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ท่านจะได้ตรัสเรียกมโหสถมาเข้าเฝ้าหรื่อไม่
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 17
ท้าวสักกเทวราชไม่ตรัสตอบสิ่งใด เมื่อความจริงได้ปรากฏ และบัดนี้มหาชนก็ได้ทราบแล้วว่าพระองค์เป็นใคร จึงทรงกลับร่างเป็นเทพราชา ผู้สง่างามด้วยทิพย์อาภรณ์มีรัศมีเฉิดฉาย ทรงเหาะทะยานขึ้นสู่เบื้องบนแล้วไปปรากฏพระองค์อยู่กลางนภากาศ ตรัสชื่นชมปัญญาบารมีของมโหสถบัณฑิตด้วยพระสุรเสียงก้องกังวาน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 16
มโหสถพิจารณาอยู่ว่า “...ชายเข็ญใจผู้นี้เป็นใครกันแน่ ตาก็ไม่กระพริบ แววตาช่างดูมีอำนาจ ซ้ำยังองอาจ มิได้ครั่นคร้ามต่อสิ่งใด ทั้งที่มายืนอยู่ท่ามกลางมหาชนมากมายถึงเพียงนี้”ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา “..หรือว่าชายผู้นี้ จะเป็นท้าวสักกเทวราช จอมเทพแห่งดาวดึงส์พิภพจำแลงมา...” แล้วมโหสถจะตัดสินคดีความอย่างไรนั้น
แค่ดูหน้าก็รู้ว่าเป็นโรคทางพันธุกรรม
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 14
เมื่อนายโคฬกาฬนึกถึงภรรยาสุดที่รักที่กำลังถูกชิงตัวไป จึงรีบวิ่งลงไปในน้ำไปได้หน่อยหนึ่งก็กลับขึ้นมาอีกเพราะความกลัว ครั้นรวบรวมความกล้าได้อีกครั้ง ก็รีบวิ่งลงไปในแม่น้ำอีกหนด้วยความโกรธ กระโจนลงไปด้วยปลงใจว่าจะเป็นหรือตายก็ช่างเถิด ขอเพียงให้ได้ภรรยาคืนมา เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อนั้น...
เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๗ )
พระคุณเจ้าจงบริโภคภัตอันวิเศษนี้เถิด เพราะสุธาโภชน์ที่บริโภคแล้วนั้น ย่อมขจัดบาปธรรมได้ถึง ๑๒ ประการ คือ ความหิว ความกระหาย ความกระสัน ความกระวนกระวาย ความเหน็ดเหนื่อย ความโกรธ ความเข้าไปผูกโกรธ ความวิวาท ความส่อเสียด ความหนาว ความร้อน และความเกียจคร้าน ภัตนี้มีรสอันเลิศ เป็นสิ่งสมควรแก่ท่านผู้มีคุณธรรมสูงส่ง