ที่ตั้งของมหานรก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหานรกนั้นมีเปลวไฟพุ่งจากฝาด้านหน้าจรดฝาด้านหลัง พุ่งจากฝาด้านหลังจรดฝาด้านหน้า พุ่งจากฝาด้านเหนือจรดฝาด้านใต้ พุ่งจากฝาด้านใต้จรดฝาด้านเหนือ พุ่งขึ้นจากข้างล่างจรดข้างบน พุ่งจากข้างบนจรดข้างล่าง สัตว์นั้นจะเสวยทุกขเวทนาที่แรงกล้า เจ็บแสบอยู่ในมหานรกนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมยังไม่สิ้นสุด
ธรรมะเพื่อประชาชนการบูชาพระจุดเทียนเล่มเดียวได้หรือไม่
โดยปกติเวลาบูชาพระ เราใช้เทียน 2 เล่ม ใช้ธูป 3 ดอก ธูปเป็นการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีพระคุณยิ่ง 3 ประการ เทียนเป็นการบูชาคุณของพระธรรม ซึ่งมีพระคุณ 2 ประการ
หลวงพ่อตอบปัญหาบั้งไฟพญานาค ปรากฏการณ์ที่สะกดทุกสายตา
"ตุลาคม" เป็นเดือนที่ริมฝั่งโขงจะคึกคักเป็นพิเศษ กับเหตุการณ์ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งมีแค่ครั้งเดียวในรอบปี ที่จะได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ "บั้งไฟพญานาค" ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 11
เรื่องเด่นทันเหตุการณ์กุกกุรชาดก-ชาดกว่าด้วยการสงเคราะห์ญาติ
ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายนั่งสนทนากันอยู่ ณ เชตะวันมหาวิหาร ถึงเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงช่วยให้พระประยูรญาติจำนวนมากได้บรรลุธรรมถึงความพ้นทุกข์ และในจำนวนนั้นมีพระประยูรญาติหลายพระองค์ได้มาเป็นกำลังใจในการเผยแพร่แผ่พระพุทธศาสนา
นิทานชาดก 500 ชาติ7 วันหลังความตายเป็นอย่างไร
จนในวันที่ 7 นับจากวันที่คุณพ่อท่านนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความที่ตัวท่านยังนึกถึงบุญและบาปไม่ออก กายละเอียดของท่านจึงได้แวบกลับไปยังสถานที่ที่ตัวท่านได้เสียชีวิตอีกครั้ง เมื่อคุณพ่อท่านนี้ได้ไปถึงสถานที่ที่ตัวท่านเสียชีวิตแล้ว
ตายแล้วไปไหนอสุรกายคืออะไรมีความเป็นอยู่เป็นอย่างไร
อสุรกายภูมิ จัดเป็นอบายภูมิอันดับที่ 3 เป็นปรโลกฝ่ายทุคติ ที่ชื่อว่า อสุรกายภูมิ เพราะเป็นสถานที่ปราศจากความร่าเริง สัตว์ที่ละโลกจากอัตภาพที่เป็นมนุษย์ไปเป็นอสุรกายก็ดี หรือหมดกรรมจากมหานรกมาเป็นอสุรกายก็ดี ย่อมไม่ได้รับความบันเทิงใจ ไม่มีความสนุกสนานร่าเริงอย่างโลกมนุษย์ จะต้องได้รับทุกขเวทนาอย่างเผ็ดร้อนจากผลกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้
ตายแล้วไปไหนเปรตกับอสุรกายต่างกันตรงไหน
โดยรูปลักษณ์แล้ว เปรตกับอสุรกายมีความคล้ายกันมาก แต่ว่าอสุรกายนั้นจะมีรูปร่างที่พิลึกประหลาดมากกว่า อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็ยากที่จะแยกให้เห็นความแตกต่างได้ ในการพิจารณาจึงให้ดูที่ลักษณะของทุกขเวทนาที่ได้รับ ความทุกข์ทรมานของเปรตนั้น เนื่องมาจากความหิว ความอดอยากเข้าครอบงำเป็นหลัก ส่วนอสุรกายนั้น มีความทุกข์ทรมานเพราะความกระหายน้ำเป็นหลัก สัตว์ในภูมิทั้ง 2 นี้ ต้องประสบกับความลำบากในการครองชีวิตอย่างแสนสาหัส เพราะว่าเขาเป็นสัตว์ในอบายภูมิ คือ ภูมิที่มีแต่ความชั่วร้าย ไม่มีความสุขนั่นเอง
ตายแล้วไปไหนทำไมตายแล้วไปเป็นเปรต
เปตติวิสยภูมินั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบไว้ว่า เหมือนกับต้นไม้ในพื้นที่อันไม่เสมอ มีใบอ่อนและใบแก่ โปร่งเบา มีร่มเงาอันโปร่ง เป็นสถานที่ที่ไม่น่ารื่นรมย์ เพราะแห้งแล้งเต็มไปด้วยความทรมาน เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งประพฤติอกุศลกรรมนำชีวิตของตนไปในทางอกุศลกรรม ผู้นั้นชื่อว่านำตนไปสู่ปฏิปทาทางไปสู่ต้นไม้อันหาความสุขสบายมิได้ คือ เปตติวิสยภูมินั้นอย่างแน่นอน
ตายแล้วไปไหนเปรตที่รับส่วนบุญได้และไม่ได้
เปรตบางชนิดที่สามารถรับส่วนกุศลได้ ในบรรดาเปรตทั้งหลายที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น มี 12 จำพวกบ้าง 4 จำพวกบ้าง 21 จำพวกบ้าง ในจำนวนเปรตทั้งหมดนี้ เปรตที่มีโอกาสจะได้รับส่วนบุญจากญาติอุทิศให้ คือ เปรตจำพวกปรทัตตูปชีวิกเปรต และเป็นเปรตจำพวกเดียวที่รับส่วนบุญได้เท่านั้น ส่วนเปรตอื่นๆ นอกจากนี้ ไม่สามารถจะรับส่วนบุญที่ญาติอุทิศไปให้ได้ เพราะเหตุว่าเปรตเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากหมู่มนุษย์ แต่สำหรับปรทัตตูปชีวิกเปรตนั้น เป็นเปรตที่เกิดอยู่ในบริเวณบ้าน เช่น บุคคลบางคนถูกฆ่าตายโดยปัจจุบัน หรือผู้ที่ตายตามธรรมดาก็ตาม แต่มีความห่วงใยอาลัย ก็เกิดเป็นเปรตอยู่ในบริเวณบ้านนั้นเอง
ตายแล้วไปไหนสภาพของเปรตแต่ละชนิด
เปรตชิ้นเนื้อ ครั้งหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานเถระได้เห็นชิ้นเนื้อลอยอยู่ในอากาศ พวกแร้งบ้าง นกตะกรุมบ้าง ต่างพากันโผถลาตามจิกทึ้งชิ้นเนื้อนั้น และชิ้นเนื้อนั้นก็ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร จึงคิดว่าน่าอัศจรรย์เป็นนักหนา ต่อมาได้กราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงทราบ ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล่าประวัติของเปรตตนนี้ว่า
ตายแล้วไปไหน