ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 179
พระเจ้าจุลนี ทรงสดับถ้อยคำเย้ยหยันของมโหสถแล้ว ก็ยิ่งทรงพระพิโรธหนักขึ้น ความอาฆาตแค้นอัดแน่นในพระอุราเป็นทับทวี ทรงดำริว่า “เจ้ามโหสถนี่กำแหงมากนัก มาเยาะเย้ยเราได้ ต้องให้มันรู้สำนึกเสียบ้างในวันนี้เป็นทีของใคร”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 178
ขณะนั้น พระเจ้าจุลนีเสด็จขึ้นสู่พระคชาธาร พระองค์ทรงสวมฉลองพระองค์ด้วยเกราะแก้วประดับเพชรมณี พระหัตถ์ทรงศร ประทับสง่าเหนือคอพระคชาธารซึ่งทรงพละกำลังมหาศาล พลางมีพระบัญชาสั่งขบวนพลทุกกองทัพ ทั้งพลช้าง พลม้า พลรถ พลราบ และกองขมังธนู ประชุมพร้อมกันเพื่อเตรียมเผด็จศึกทันที
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 177
การที่มโหสถขัดพระกระแสรับสั่งนั้น ก็เพราะความเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม ที่มิอาจจะทอดทิ้งเหล่าทหารหาญและเหล่าบริวารทั้งหลายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด แล้วหนีเอาตัวรอดไปได้ นี้เป็นคุณธรรมของมโหสถบัณฑิต ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบต่อหมู่คณะ เป็นลักษณะเด่นของผู้นำที่ดีทีเดียว
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 176
ฝ่ายมโหสถบัณฑิต นำเสด็จพระเจ้าวิเทหราชขึ้นประทับบนพลับพลาเรียบร้อยแล้ว ก็ทูลเชิญพระราชธิดาปัญจาลจันทีขึ้นสู่ที่ประทับอันประดับประดาตกแต่งไว้อย่างดีแล้ว ให้พระนางประทับอยู่คู่กับพระเจ้าวิเทหราช ครั้นแล้วจึงได้ทำพิธีราชาภิเษกสมรสให้ทั้งสองพระองค์
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 175
ฝ่ายอาจารย์เสนกะ พอเริ่มออกเดินเท่านั้น ก็รีบถอดผ้าโพกศีรษะออก ค่อยๆปลดผ้านุ่งออกแล้วบรรจงผูกใหม่ให้มั่นคง มโหสถเหลือบไปเห็นกิริยาของอาจารย์เสนกะ จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเสนกะ ท่านมัวทำอะไรอยู่น่ะ” อาจารย์เสนกะ ก็หันมาตอบว่า “ข้าพเจ้าก็เตรียมจะเดินลงอุโมงค์น่ะสิ ถึงต้องเปลื้องผ้าโพกหัว แล้วยักรั้งให้มั่นคง จะเดินได้สะดวกๆอย่างไรล่ะ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 174
เมื่อพระเจ้าวิเทหราช ได้ทรงสดับคำของอาจารย์เทวินทะแล้ว ก็ทรงหวนรำลึกถึงถ้อยคำที่พระองค์ได้เคยบริภาษมโหสถไว้เมื่อคราวก่อน ซึ่งบัดนี้พระองค์ก็ได้ทรงตระหนักแล้วว่ามีเพียงมโหสถเท่านั้น ที่จะช่วยให้พระองค์รอดพ้นจากเหตุการณ์คับขันในครั้งนี้ได้ แต่เมื่อไม่อาจจะตรัสอะไรได้มากไปกว่านี้ ทั้งๆที่มโหสถบัณฑิตก็นั่งอยู่ใกล้ๆ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 173
มโหสถทราบว่าอาจารย์เสนกะเริ่มจะอ่อนข้อลงแล้ว แต่ก็แสร้งสวนกลับเป็นเชิงข่มขวัญอาจารย์เสนกะว่า “ท่านอาจารย์เสนกะ สิ่งที่ล่วงไปแล้ว จะกลับมาแก้ไขเยียวยาอะไรได้อีก ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าคงช่วยอะไรท่านไม่ได้หรอก ท่านสิ...เชิญเถิด เชิญนำเสด็จพระราชาเหาะกลับมิถิลานครตามสะดวกเถอะนะ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 172
คำกราบบังคมทูลที่สั้นๆ หนักแน่น และจริงจังของมโหสถบัณฑิต ทำให้พระเจ้าวิเทหราชนั้นทรงตกพระทัยกลัวจนแทบครองพระสติไม่อยู่ เกิดความเร่าร้อนในพระสรีระกาย จนปราณแทบจะดับลงในทันที จึงทรงครวญคร่ำรำพันไปต่างๆนานาว่า “มโหสถเอ๋ย ใจของเราเสียวสั่น สะท้านไหว เหมือนใบโพธิ์ที่ต้องลม บัดนี้ความเร่าร้อนได้เผาลนจิตใจของเราจวนเจียนจะละลาย เหมือนเบ้าหลอมทองที่ถูกสุมอยู่ในเตา"
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 171
ทันใดนั้นเอง ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทำให้พระองค์ถึงกับทรงตกพระทัย เพราะบัดนี้พระนครที่พระองค์ประทับอยู่ ได้ถูกกองทัพมหึมาเคลื่อนกำลังพลเข้าล้อมกำแพงพระนครไว้แล้วโดยรอบ แสงคบเพลิงนับแสนๆ ดวงถูกสาดส่องไปทั่วบริเวณ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 170
เมื่อทหารเหล่านั้น นำเสด็จกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์มาถึงเชิงบันได ก็ช่วยกันเปิดปากประตูอุโมงค์ แล้วทูลเชิญให้เสด็จพระดำเนินไปตามเส้นทางนั้น เมื่อเสด็จเข้าไปสู่ภายในอุโมงค์แล้ว พระนางทอดพระเนตรเห็นทางลับนั้น ก็ทรงมีพระทัยพิศวงยิ่งนัก ถึงกับทรงปรารภขึ้นว่า “เอ...ชอบกลอยู่นะ เราอยู่ที่นี่มานาน ตั้งแต่เกิดมาจนแก่ปูนนี้ ก็ยังไม่เคยลงมาตามทางนี้เลย”