ร่วมมุทิตา ป.ธ.3,6,9 และ บ.ศ.3,6,9 ในวันอาทิตย์ต้นเดือน 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ในปีนี้หลังการประกาศผลสอบบาลีรอบที่ 2 มีพระภิกษุ-สามเณรวัดพระธรรมกาย สอบบาลี เพิ่มได้อีกถึง 62 รูป
ผู้ที่มัวเก็บดอกไม้ (กามคุณ) เพลินอยู่
ผู้ที่มัวเก็บดอกไม้(กามคุณ)เพลินอยู่มีจิตใจข้องอยู่แต่ในกามคุณไม่รู้จักอิ่มมักตกอยู่ในอำนาจมฤตยู
ศรัทธาและโภตะ
มุนีพึงจาริกไปในเขตคาม ไม่ทำลายศรัทธาและโภตะของชาวบ้าน
คนพาลย่อมได้ทุกข์
ตลอดระยะเวลาที่บาปยังไม่ให้ผล คนพาลสำคัญบาปหวานปานน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้นเขาย่อมได้ทุกข์
มฤตยูฉุดคร่าคนผู้มัวเก็บดอกไม้ (กามคุณ)
กามคุณ ในพระพุทธศาสนาหมายถึง สิ่งที่น่าปรารถนา ชวนให้รักชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัดยินดี มี 5 ชนิด คือ รูป (สิ่งที่ตามองเห็น) เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กายสัมผัส) กามคุณ 5 นี้เป็นอารมณ์ คือสิ่งที่ยึดดึงใจให้ปรารถนา ให้รักใคร่ เป็นต้น จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "กามารมณ์" แปลว่า อารมณ์คือกามคุณ
เมื่อรู้ว่าร่างกายนี้แตกสลายง่าย และว่างเปล่า
เมื่อรู้ว่าร่างกายนี้แตกสลายง่าย และว่างเปล่าเช่นเดียวกับฟองน้ำ และพยับแดดก็ควรทำลายบุษปศรของกามเทพไปให้พ้นทัศนวิสัยของมัจจุราชเสีย
กรรมชั่วที่ทำ
กรรมชั่วที่ทำแล้ว ยังไม่ให้ผลทันทีทันใด เหมือนนมที่รีดใหม่ ๆ ไม่กลายเป็นนมเปรี้ยวในทันที แต่มันจะค่อย ๆ เผาผลาญผู้กระทำในภายหลัง เหมือนไฟไหม้แกลบ
คนพาล ถึงจะบำเพ็ญตบะ
คนพาล ถึงจะบำเพ็ญตบะ โดยเอาปลายหญ้าคาจิ้มอาหารกิน ทุกเดือน การปฏิบัติของเขาไม่เท่าหนึ่งในสิบหกส่วน ของการปฏิบัติของท่านผู้บรรลุธรรม
ปราศจากวิญญาณ
วิญญาณ ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่หมายถึง วิญญาณล่องลอยที่เป็นผี แต่หมายถึงสภาพธรรมที่รู้อารมณ์ คือ เป็นสภาพรู้ เป็นใหญ่ในการรู้ เรียกว่าวิญญาณ คือ จิต ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงวิญญาณก็คือสภาพธรรมที่เป็นจิต วิญญาณหรือ จิตจึงมีหลายประเภทเช่น จักขุวิญญาณ หรือ จิตเห็น โสตวิญญาณ หรือ จิตได้ยิน ดังนั้นเมื่อวิญญาณหรือจิตเกิดขึ้น เป็นสภาพรู้ ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ เช่น จิตเห็น(จักขุ วิญญาณจิต) เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องมีสิ่งที่ถูกเห็นคือ สี เป็นต้น
จิตอยู่ในกาย
พระพุทธศาสนาไม่ถือว่าจิตเป็นตัวตนที่แท้จริงแต่ถือว่าเป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้เกิดขึ้น ตามกฎแห่งอนัตตา (ทุกสิ่งไม่ตัวตนที่จริงแท้) คือไม่มีตัวตนอันเป็นแก่น เหมือนต้นไม้ย่อมอาศัยดิน ราก ใบ แสงแดด อากาศ กิ่ง ทำให้มีตัวตนที่เรียกว่าต้นไม้ขึ้น