Super Big Cleaning ในครั้งพุทธกาล
เรื่องราว Super Big Cleaning ในสมัยพุทธกาลในช่วงที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้านำเหล่าภิกษุสงฆ์สาวกกว่า 500 รูป เดินทางไปโปรดชาวเมืองไพศาลี
เมื่อตั้งใจทำความดีทำไมจึงถูกก่อกวน
พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ฉะนั้นให้เร่งทำความดีให้มากๆ ตั้งแต่บัดนี้ แล้วก็อดทนต่อการกระทบกระทั่งให้มากๆ ด้วย
อานิสงส์ให้อาหารปลา
บุคคลให้ทานในสัตว์เดียรัจฉาน พึงหวังผลทักษิณาได้ร้อยเท่า ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล พึงหวังผลทักษิณาได้พันเท่า ให้ทานในปุถุชนผู้มีศีล พึงหวังผลทักษิณาได้แสนเท่า ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกามพึงหวังผลทักษิณาได้แสนโกฏิเท่า ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้ง พึงหวังผลทักษิณาจนนับไม่ได้จนประมาณไม่ได้ จะป่วยกล่าวไปไยในพระโสดาบัน ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง ในพระสกทาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง ในพระอนาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตผลให้แจ้ง ในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ในพระปัจเจกสัมพุทธ และในตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
อานิสงส์ถวายน้ำผึ้ง
ขุมทรัพย์ คือบุญนี้ ให้สมบัติน่าใคร่ทุกอย่างแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ เหล่าเทวาและมนุษย์ทั้งหลาย ปรารถนาผลใดๆ ผลนั้นๆ ทั้งหมด สำเร็จได้ด้วยบุญนิธินั่น
ปล่อยทุกอย่างวางทุกสิ่ง
“ทำอย่างไรใจจึงจะหยุดนิ่ง?” คำถามนี้คงอยู่ในใจของนักปฎิบัติธรรมทุกคน เพราะเวลาปฏิบัติธรรม ใจของเรามักชอบวิ่งไปในอารมณ์ต่างๆ ที่คุ้นเคย
เอาเต่าเป็นครู
สังคมปัจจุบันนี้มีภัยอยู่รอบตัว โดยเฉพาะภัยทางอารมณ์ที่คอยรุมเร้าจิตใจของเราให้เศร้าหมอง เร่าร้อนกระวนกระวาย
เครื่องกั้นจิตปิดกั้นใจ
“จิต” ของมนุษย์นั้นเดิมทีมีความใสสว่าง สะอาดบริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่า “จิตประภัสสร” แต่เพราะถูกอาคันตุกะกิเลส(กิเลสที่จรมา)
ความต่อเนื่อง
การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ปฏิบัติกันได้ง่ายๆ แต่น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จ ตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่ง
ต้องรักษาใจ
“ใจ” มีธรรมชาติที่อ่อนไหว ปรวนแปรและล่องลอยไปในทุกๆ ที่ได้ง่ายแสนง่าย แม้แต่ช่วงเวลาเพียงเล็กน้อย
น้ำตามากกว่ามหาสมุทร
น้ำตา คงไม่มีใครในโลกที่เกิดมาแล้วไม่เคยเสียน้ำตา เราเสียน้ำตากันตั้งแต่แรกเกิด หลังจากนั้นก็ต้องเสียน้ำตามาโดยตลอด