กกัณฏกชาดก ชาดกว่าด้วยกิ้งก่าได้ทรัพย์
พระราชาได้เสด็จไปยังพระราชอุทยาน ก็ทรงมองหาเจ้ากิ้งก่าตัวนั้น “ มโหสถ เจ้ากิ้งก่าตัวนั้นมันหายไปไหนสะแล้วล่ะ ” “ มันอยู่บนเสานั้นแหละพระเจ้าค่ะ ” เจ้ากิ้งก่านั้น แม้เห็นว่าพระราชาทรงเสด็จมา ก็ไม่ได้ลงจากปลายเสาค่าย เพื่อทำความเคารพพระราชาเช่นเดิม ด้วยเพราะมันเข้าใจว่าตนเองมีทรัพย์เสมอพระราชา มันจึงทำตนเสมอพระราชาด้วย
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
พระแม่เภรีได้ฟังเหตุผลนั้นแล้ว จึงทูลถามถึงโทษของพราหมณ์เกวัฏเป็นลำดับต่อไป "ขอถวายพระพร ท่านปุโรหิตเกวัฏมีอุปการะแก่พระองค์มากทีเดียว ท่านเป็นผู้ฉลาดสามารถ เชี่ยวชาญในคัมภีร์พระเวท รอบรู้ในการทำนายทายทัก เรื่องสุบินนิมิต เรื่องฤกษ์ยาม โดยเฉพาะฤกษ์ยามในการยกทัพและในการเข้ารบ รู้แม้กระทั่งเสียงร้องของสัตว์ทั้งหลาย บุคคลเช่นท่านเกวัฏนี้หาไม่ได้ง่ายเลย"
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
นับแต่นั้นมา เจ้าหญิงนันทาก็ทรงเป็นที่โปรดปรานของเจ้าชายจุลนีตลอดเรื่อยมา แม้เจ้าชายจุลนีจะเสด็จกลับไปครองบัลลังก์แห่งปัญจาลนครแล้วก็ตาม พระนางก็ยังคงติดตามพระสวามีดุจดังพระฉายาที่ไม่อาจพรากจากกัน และเพราะเหตุนี้เอง พระแม่เภรีจึงได้ทูลถามพระเจ้าจุลนีว่า “พระนางนันทาเทวีทรงมีโทษอะไร เหตุใดพระองค์จึงทรงคิดจะประทานพระนางให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สอง”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
พระมารดาจึงได้ส่งขนมและน้ำอ้อยให้แก่พระกุมารเสวย ขณะนั้นหมู่แมลงวันได้กลิ่นน้ำอ้อย ก็พากันบินมาตอมพระกุมาร จุลนีราชกุมารทรงดำริว่า “เราจักเคี้ยวกินขนมนี้โดยไม่ให้มีแมลงวัน” ครั้นแล้วจึงทรงเลี่ยงไปหน่อยหนึ่ง แล้วหยดน้ำอ้อยลงสู่พื้น พร้อมกับค่อยๆไล่แมลงที่ห้อมล้อมพระองค์อยู่ แมลงวันเหล่านั้นแทนที่จะรุมตอมพระกุมาร ก็พากันไปรุมตอมน้ำอ้อยที่พื้นแทน
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
ปัญหาที่พระแม่เภรีทูลถามพระราชานั้น เป็นอุบายที่จะหยั่งน้ำพระทัยของพระองค์ได้เป็นอย่างดี เพราะหากจะถามกันตรงๆว่า มหาบพิตรทรงมีความรักในมโหสถบัณฑิตเพียงไร จริงอยู่ อาจจะถามได้ แต่พระดำรัสที่ตรัสตอบนั้น แม้จะตอบว่า รักยิ่งกว่าชีวิตของพระองค์เอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจประกาศความรักและความปรารถนาดีที่พระองค์ทรงมีต่อมโหสถได้อย่างชัดแจ้งเป็นรูปธรรม
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
วันหนึ่งพระองค์ลงเรือไปในมหาสมุทรพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกหกคน คือ พระชนนี พระนางนันทา พระอนุชาติขิณมนตรี พระสหายธนูเสกข์ ปุโรหิตเกวัฏ และมโหสถบัณฑิต ปรากฏว่าเรือของมหาบพิตรแล่นเข้าไปในเขตของผีเสื้อน้ำตนนั้น มันจึงระเบิดน้ำในมหาสมุทรออกมา แล้วฉุดเรือของมหาบพิตรไว้...ครั้นแล้วจึงข่มขู่มหาบพิตรว่า ท่านจะต้องส่งคนทั้งหกให้เรากินเสีย ตามลำดับ เราจึงจะปล่อยท่านไป
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
สตรีทั้งสามนางจึงรีบพากันไปกราบถวายบังคมพระเจ้าจุลนี แล้วทูลเรื่องราวทั้งหมดตามที่พวกตนได้เห็นมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะแปลความหมายในสิ่งที่พวกตนเห็นเหมือนอย่างที่พระนางนันทาเทวีตรัสไว้ จากนั้นจึงกราบทูลเสริมอีกว่า “ขอพระองค์อย่าได้ทรงลังเลพระทัยอยู่เลยเพคะ ทางที่ดีควรรีบฆ่ามโหสถเสียโดยเร็ว เพราะหากทรงชักช้าอยู่ก็จะมิทันการณ์นะเพคะ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 190
พระราชาพระองค์น้อยทรงทัดทาน แต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อไม่อาจจะยับยั้งความตั้งใจของมโหสถได้ ในที่สุดพระองค์จึงทรงประทานพระบรมราชานุญาตให้ตามที่ขอ ตรัสว่า “ท่านบัณฑิต ท่านจงไปเถิด ไปอยู่กับพระอัยกาของเรา แต่ขอให้ท่านกลับเยี่ยมเราบ้างก็แล้วกัน”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 189
ภายหลังจากถวายราชสมบัติแด่องค์รัชทายาทแล้ว มโหสถก็หวนรำลึกถึงคำปฏิญญาของตนที่ได้ถวายไว้แด่พระเจ้าจุลนีว่า “เมื่อใดพระเจ้าวิเทหราชเสด็จสวรรคต และหากว่าตนยังมีชีวิตอยู่ เมื่อนั้นแหละ ตนถึงจะมีโอกาสได้รับใช้พระเจ้าจุลนี”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 188
ข่าวการกลับมาของมโหสถบัณฑิตก็แพร่สะพัดไปทั่วพระนคร อาจารย์เสนกะทราบข่าวนั้น ก็สุดแสนจะดีใจ รีบกุลีกุจอขอเข้าเฝ้า เพื่อทูลถวายรายงานให้ทรงทราบข่าวนั้นทันที เมื่อพระเจ้าวิเทหราชทรงสดับข่าวอันเป็นมงคลนั้นแล้ว ก็ทรงดีพระทัยยิ่งนัก รีบประทับยืนขึ้น แล้วทอดพระเนตรผ่านช่องพระแกลมองดู ณ เบื้องล่างในทันที