โครงการอบรมธรรมทายาทหญิง
มงคลที่ ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์ - ญาติธรรมและธรรมทายาท
แม้พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสละพระราชทรัพย์ถึง ๙๖โกฏิ สร้างพระวิหาร ๘๔,๐๐๐หลัง ไว้ในพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงเป็นได้เพียงแค่โยมอุปัฏฐากเท่านั้น ครั้นทรงถวายพระกุมารและพระราชธิดา ผู้เป็นประดุจแก้วตาดวงใจไว้ในพระพุทธศาสนา จึงได้ชื่อว่าเป็นทายาทในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
มงคลที่ ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์ - ครั้งหนึ่งในชีิวิตของลูกผู้ชาย
"ดูก่อนโสณะ พรหมจรรย์มีภัตรหนเดียว ต้องนอนผู้เดียวตลอดชีวิต เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ท่านเป็นคฤหัสถ์อยู่ในเรือน จงหมั่นประกอบพรหมจรรย์อันมีภัตรหนเดียว นอนผู้เดียว ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเถิด" แม้พระอาจารย์จะทักเช่นนี้ แต่ด้วยมโนปณิธานอันแน่วแน่ที่จะบวชให้ได้ ท่านเพียรเข้าไปขออนุญาตพระเถระถึง ๓ครั้ง
ผุดขึ้นมาเป็นสาย
มีอยู่คืนหนึ่ง เวลาประมาณตีหนึ่งเห็นจะได้ ลูกฝันเห็นคุณยายอาจารย์ ท่านบอกลูกว่า “นั่งแค่นี้ทำวิชชาไม่ได้หรอก ถ้าจะทำวิชชาต้องเพิ่มเวลานั่งให้มากกว่าที่นั่งอยู่ในปัจจุบันนี้อีก” แล้วคุณยายก็นั่งสมาธิให้ลูกดูจนถึงเช้าเลย ลูกจึงฮึดสู้ แม้บางวันเสร็จงานดึกแค่ไหน ลูกก็จะต้องนั่งสมาธิต่อ
จากเรือนเหมือนนกที่จากคอน
หลังจากทีมงานลูกพระธัมฯ วัดพุทธโกเธนเบิร์ก ได้จัดโครงการอบรม ธรรมทายาทหญิงรุ่นแรกของยุโรป ไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โอกาสบุญใหญ่ก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อวัดพุทธโกเธนเบิร์กได้จัดโครงการอบรม และบรรพชาสามเณรธรรมทายาทรุ่นที่3ขึ้น ระหว่างวันที่ 13-27 กรกฎาคม พ.ศ.2551 โดยมีพิธีบรรพชาไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ที่ผ่านมาค่ะ
ธรรมทายาทหญิงรุ่นแรกของทวีปยุโรป
น้องๆได้เรียนรู้หลักธรรม และวัฒนธรรมชาวพุทธ รักษาศีลแปด สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น และฝึกสมาธิ นอกจากนี้ยังได้รับฟังธรรมะจากพระอาจารย์ และเรื่องที่บีบน้ำตาน้องๆมากที่สุดคือ “เรื่องพระคุณของพ่อแม่” ในช่วงนั้นเป็นบรรยากาศที่เหนือคำบรรยายค่ะ น้องๆซาบซึ้งกันมากจนร้องไห้ วันรุ่งเช้าตาบวมไปตามๆกันเลยค่ะ
ตอนนี้...ลูกหายสงสัยแล้วค่ะ
แต่พอลูกเริ่มจ้องก็จะหายไป ถ้ามองหาจะหาไม่เจอค่ะ แต่ถ้าปล่อยไปทำเหมือนไม่สนใจ ก็จะเห็นดวงแก้วอยู่ที่ศูนย์กลางกายเหมือนเดิมค่ะ จากที่ลูกเคยสงสัยว่า ศูนย์กลางกายอยู่ที่ไหน ดวงแก้วใสเป็นอย่างไร และที่ว่ามองเห็นดวงแก้วกลางท้อง เห็นได้อย่างไร ตอนนี้ลูกหายสงสัยแล้วค่ะ
สมาธิ...อัศจรรย์เกินจินตนาการ
มะเร็งลามจากต่อมน้ำเหลืองสู่ลำคอ แล้วลามต่อไปถึงปอด อันเป็นระยะสุดท้าย วินาทีนั้น...ลูกหวาดกลัวจนตัวสั่น หน้าซีดเหมือนไก่ถูกต้มสุก รู้สึกเคว้งคว้าง สับสน เหมือนหลงทางอยู่กลางป่าเพียงลำพัง หวั่นไหว หวาดกลัวมรณภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ แต่ใครเล่าจะยอมตายจากลูกน้อยที่แสนรักแสนห่วงใย ตราบยังมีลมหายใจ ชีวิตย่อมมีความหวัง
แม่พริกขี้หนู..แวบจู๊ด
ก่อนที่เธอจะเกิดมา คุณแม่ของเธอเคยเสียลูกชายไปตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 7วัน คุณแม่ได้เอาเขม่าดำก้นหม้อ ป้ายที่หน้าผากด้านซ้าย ก่อนนำศพไปเผา...เมื่อเธอเกิดมา ก็มีปานที่หน้าผากตรงจุดเดียวกัน คุณแม่เชื่อว่าเธอคือลูกชายที่ตายไปมาเกิด...ในวัยเด็ก เธอเคยพบเหตุการณ์ประหลาด มีเด็กตัวเล็กๆสูงแค่เข่า (ตอนนั้นเธออายุ 5ขวบ) มาเล่นกับเธอ แล้ววิ่งหายไปในดงเถาวัลย์เตี้ยๆข้างรั้ว...ปัจจุบัน เธอเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่วัดในวันอาทิตย์